ผ่านมา 2 เดือนเต็ม เข้าสู่เดือนที่ 3 ของการใช้ชีวิตร่วมกับวัตถุแปลกปลอมในช่องปาก ... การปรับตัวอยู่ร่วมกันเป็นไปได้อย่างดีขึ้น
รู้จักการดูดเพื่อเอาเศษอาหารออกหลังทานข้าว โดยที่ไม่ต้องแปรงฟัน
รู้จักการใช้ฟันหน้าฉีก โดยไม่กระทบกับเครื่องมือที่ติดอยู่
รู้จักการประณีประนอม เคี้ยวเยื้อง ๆ เพราะฟันหน้ากระแทกกัน ฟันกรามไม่กระแทกกัน อย่างที่ได้บ่นไปแล้วก่อนหน้า
การไปพบหมอครั้งนี้ เจอเรื่องที่ ฮึ่ยๆๆๆๆ
หมอนัด 6 โมงเย็น ไปถึงตั้งแต่ 5โมง45
น้องเคาท์เตอร์คนสวยก็ค่ะๆ แต่ไม่ยอมส่งใบประวัติให้หมอ
เพื่อ!!!
รอจน 1 ทุ่ม เห็นคนเริ่มน้อยละ ไม่ถึงตาเราซักที เลยเดินเข้าไปถามว่าคิวพี่ละน้อง
สาวสองคนก็โอ๊ะๆๆๆ รีบ ๆๆๆ ซักพัก หมอก็เรียกไปตอน 1 ทุ่ม 10 นาที
หมอ "รอหมอนานมั๊ยคะ ... เค้าเพิ่งเอาใบประวัติมาให้หมอเดี๋ยวนี้นี่เอง ไม่บอกหมอว่าเรามาแล้ว" (เชี่ยแม่ง กูรอตั้งนาน)
เรื่องบนเตียงคราวนี้จึงเริ่มขึ้นอย่างหงุด ๆ หงิด ๆ
แต่ก็มารู้สึกดีขึ้นตอนหมอถ่างปากดูแล้วบอกว่า "อืม ดูดีกว่าที่คิด"
ตีความเลยว่า มันเข้าที่และเป็นไปตามแผน
ชิ ฟันล่างงับฟันบนก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดกู่ไม่ได้หร่อกว๊า
ครั้งนี้ เลือกยางสีส้ม ทั้งที่ไม่ชอบ แต่เพราะเด็กที่บ้านชอบ
หมอ "ตึง ๆ หน่อยนะคะ" (คิดอยู่ว่า จะให้ โป๊ะ เมื่อไหร่คะหมอ ... ล้อเล่น)
มีหยักตรงกลางด้วย
การบ้านของเดือนที่ 3
- ไม่ต้องอมน้ำอุ่นแล้ว เพราะเปลี่ยนเป็นลวดแข็งแล้ว (เหรอ)
- เอานิ้วกดเขี้ยว ล่างซ้าย ที่อยุ่นอกแถวนอกกรอบ กดเรื่อย ๆ ว่างก็กด กดแบบยี้มดตัวใหญ่ กดให้เล็บเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีขาว ค้างไว้ 3 วินาทีแล้วปล่อย ทำบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ
สองซี่ตรงที่สีเหลือง ๆ ชี้อยู่
เพราะว่า เขี้ยว มีรากที่ยาวกว่าฟันหน้าซี่อื่น ๆ มันจะลากให้ซี่อื่นแตกแถวไปกับมัน ... ฉะนั้นต้องกดมันเข้าก่อน แล้วค่อยติดเครื่องมือล่างทีหลัง
เหมือนเป็นการช่วย ๆ กันก่อนใช้เครื่องมือ
หมอ "เจอกันคราวหน้า หมออยากเห็นมันอยู่ข้างในนะคะ"
(เฮ้ย เอามือกดกันได้เองเลยเหรอ รู้งี้ก็ไม่ต้องมาหาหมอแล้วดิ กดเอาเอง)
ตอนนี้ก็ขยันกดอยู่ค่ะ อาจจะดูเป็นแคะขี้ฟันอยู่ตลอด ๆ
แต่ก็ไม่เป็นไร ขยัน เพื่อตังค์ที่เสียไป
.....
No comments:
Post a Comment