ต่อจากโพสต์เมื่อวานที่ไปอุดฟันกับขูดหินปูนมา
เหตุการณ์จริงเกิดต่อกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
คิดดูเหอะ ว่าคนท้อง 5 เดือนที่รอบเอวปาเข้าไป 37 นิ้ว
กับการนอนอ้าปากให้หมอสองคนกระทำ มันเมื่อยขนาดไหน
แต่ก็ใจสู้ซะอย่าง
----
พอถึงคิวหมอจัดฟัน หมอก็คุยแต่กับผู้ช่วย
หญิบลวดเบอร์นั้นเบอร์นี้ เครื่องมือนู่นนี่
พอหมอเอาลวดมาใส่ ... เอ๊ะ หมอไม่ติดเครื่องมือในซี่มันหลุดไปเหรอ???
ด้วยความสงสัย อาศัยจังหวะช่วงที่หมอเปลี่ยนเครื่องมือ
เอามือจับฟันซี่ที่เครื่องมือหลุดดู
หมอคงหันมาเจอพอดี เหมือนรู้ใจ หมอเลยบอกว่า
"หมอไม่ติดเครื่องมือซี่นี้ให้ละนะ ปล่อยมันห้อยอยู่อย่างนี้แหล่ะ ทำหลุดเองนี่เนาะ" .... เอ่อ จะดีเหรอคะ
ซักพัก หมอใส่ลวดฟันล่าง
แบ่งเป็น 3 ช่วง
ด้านข้างซ้ายแล้วล็อค ด้านข้างขวาแล้วล็อค แล้วค่อยมาใส่ลวดตรงกลาง
ครั้งนี้ไม่มี C-chain แต่ตึงฟันหน้าชิบ
หมอเหมือนรู้ใจเช่นเคย "ตึงหน่อยนะ หมอจะลดฟันล่างแล้วนะ"
แป๊บเดียว หมอก็เสร็จกิจในช่องปากเรา
ทิ้งเราให้งงกับกิจของหมอครั้งนี้
ไม่ติดเครื่องมือที่หลุด?
ไม่ใส่ C-chain บีบฟันล่างที่ห่าง?
อะไรคือลดฟันล่าง?
ลุกขึ้นได้ก็ถือวิสาสะหยิบกระจกของผู้ช่วยข้าง ๆ เตียงมาส่องดูฟัน
แล้วก็ถามหมอว่า "หนูไม่เข้าใจน่ะค่ะหมอ..."
"ไม่เข้าใจว่า" ... พักมือจากการเขียนใบประวัติหันหน้ามามองลอดแว่นแล้วยิ้ม
"ไม่ติดเครื่องมือให้ซี่นี้ไม่เป็นไรเหรอคะ"
"ไม่เป็นไรหร่อก มัวมารอมันซี่เดียวไม่ได้ step down กันซะที เสร็จแล้วค่อยใส่มันใหม่ก็ได้" ... คลายกังวลไปหนึ่งเรื่อง
"แล้ว step down ฟันล่างมันคือยังไงคะ ตอนนี้ถึงไหนแล้วคะหมอ"
"ก็ .... บลาๆๆๆ"
พอหมออธิบายจบ ก็มาถึงบางอ้อ
จึงขอสรุปขั้นตอนการปรับการสบฟันแบบล่างคร่อมบนเลยละกัน
1. ยกฟันบนขึ้น แล้วก็จัดเรียงฟันบนให้งดงาม
2. ง้างฟันบนออกมาด้านหน้า เหยินได้ยิ่งดี
สองขั้นตอนนี้ ล่อเข้าไป 6 เดือนละ พอฟันบนอยู่ในตำแหน่งที่พอใช้ได้แล้ว ก็ตรึงมันไว้อย่างนั้น แล้วหันมาเล่นฟันล่างต่อ
ขั้นตอนต่อไป ก็ต้องติดเครื่องมือฟันล่าง เพื่อ ...
3. จัดเรียงฟันล่าง จะห่างจะล้มก็ปรับตอนนี้ แล้วก็ step down คือกดฟันล่างให้ต่ำลง ... ช่วงนี้คงจะเห็นคางยาวขึ้น หรือคางยื่นกว่าเดิม!! ... ไม่อยากจะคิดเลยแม่เจ้า
4. พอฟันล่างลงพ้นฟันบนที่ยกไว้ก่อนหน้านั้น ก็จะดึงฟันล่างเข้าไปด้านในละ (ตื่นเต้นๆๆๆๆ) ถ้าต่ำไม่พอที่จะพ้นฟันล่างก็จะดึงเข้าไปไม่ได้ ... ทีนี้ฟันห่างก็จะได้ใช้ประโยชน์ซะที ... สรุปว่าที่หมอใส่ C-chain ให้ครั้งก่อน ไม่ใช่เพราะจะปรับฟันห่าง แต่หลบเขี้ยวไม่ให้กระแทกกัน กับ ตรึงให้มันตรงแค่นั้น
5. ดึงฟันล่างที่กดได้ให้สูงขึ้นมาตรงตำแหน่งปกติ
6. เอาฟันบนที่ง้างเหยินไว้ กลับเข้าตำแหน่งเดิม
7. ปรับแต่งสุดท้าย ...
หลังจากนี้ฟันจะสวยแล้วกรู วะฮ่าๆๆๆๆ
ตอนนี้เราอยู่ในขั้นตอนที่ 3. คือกดฟันล่างลง ... ภาวนาให้ลงเร็ว ๆ นะ คางยื่นไม่ห่วงละ อยากเห็นตอนมันโดนลากเข้าข้างในจริง ๆ
---
มาถึงวันนี้เราเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว เกือบ 1 ปีแล้ว อายุจาก 29 ก็ 30 พอดีแล้ว ไปพบหมอตามนัดทุกเดือน คืบหน้าทุกเดือน ขั้นตอนล่าช้าไปเดือนเดียว ตอนหมอไปผ่าตัด แต่หมอบอกว่ายังอยู่ในแผน ... เชื่อหมอค่ะ ไม่งั้นไม่แหกปากให้ทำหร่อกค่ะ
ก็แค่จัดฟัน ทำให้มันเป็นเรื่องสนุกซะ ... บันทึกการจัดฟัน แบบฟันล่างคร่อมฟันบน ในวัย 29 ปี
09 March 2012
เรื่องขอบเตียง ... เครื่องมือหลุด อุดฟัน ขูดหินปูน
ไปทำมาแล้วค่า
ตามที่เคยบ่นไว้ในโพสต์ก่อนหน้าทุกอย่าง
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนวันนัดหมอพอดิบพอดี ก็คือ
เครื่องมือเจ้ากรรมนายเวรก็ดันหลุดออกมาได้
โชคดีที่ไม่เข้าปาก เพราะลวดยึดมันไว้
ไม่ได้ขบเคี้ยวอะไรหนักหนานะ เม็ดมะขามก็ไม่เคยกิน
นี่ก็หลุดหลังจากกินไอติมโคน -*-
ตามกำหนดการแล้ว ต้องไปอุดฟันกับขูดหินปูนก่อน
โดยที่หมออุดจะเป็นคนถอดลวดให้
แต่พอดีว่าเครื่องมือหลุด ... หมออุดเลยไปเรียกหมอจัดมาจัดก่อน
"ไปกินอะไรมาเนี่ยะ" ชี้นิ้วมองลอดแว่นมาแต่ไกล
"หมอบอกว่า ถ้าหลุดจะติดให้ฟรี 3 ครั้งใช่มั๊ยคะ แฮ่ะๆๆ" ... ตลกเนียนไป
"เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเถอะ" แล้วก็มาคืดๆๆๆ ที่ปากเลย
"อ่ะ เสร็จละ" ... หมอ เสร็จ เร็ว จัง คะ
"ถอดทิ้งซะแล้ว หึๆๆๆ" แล้วก็เดินจากไป ...
หมอศิลปิน ...
---
ทีนี้ก็ถึงคิวหมออุดฟัน
วันนี้ได้เจอหมอเด็ก
ตัวหมอก็เด็ก แล้วก็เป็นหมอฟันของเด็ก ๆ ด้วย
ห้องที่อุดก็เต็มไปด้วยลูกโป่ง
หมอน่ารักมาก พูดกับเราจนเราเขิน นึกว่าเราเป็นเด็ก 7 ขวบ
นะคะ นะคะ จับไหล่บอกตลอด "เจ็บบอกหมอได้นะคะ"
"ไหวมั๊ยคะ" "อุด 2 ซี่เลยนะคะ" "กลอหน่อยนะคะ" "เจ็บหน่อยนะคะ"
"ถ้าเสียวโบกมือบอกหมอนะคะ" "นิดนึงนะคะ"
...
จะบอกว่าหมอทำอะไรก็ทำไปเลยค่ะ
การที่ดิชั้นมานอนอ้าอยู่บนเตียงนี่ก็เตรียมใจมาแล้วค่ะ
ผุก็เข้าใจว่าต้องเจ็บ เพราะโบกมือไปกี่ครั้ง
หมอก็พูดเพียงว่า "เจ็บเหรอคะ ไหวมั๊ย"
แต่หมอไม่ได้ชะลอเครื่องมือวื๊ดๆๆๆ นั่นเลย
กดต่อเรื่อย ๆ จะโบกไม่โบกก็เหมือนกัน จัดเต็มไปเลยค่ะ
----
นี่คือสภาพที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่เห็นร่องรอยของการอุด
ตำแหน่งอุดคือที่มีหมุดสีฟ้าปักอยู่สองด้าน
ตำแหน่งซอกแห่งความลี้ลับ ที่เศษอาหารนิยมไปสิงสู่
เลยถือโอกาสถ่ายรูปตอนที่เอาลวดออก
เหลือแต่เครื่องมือเปลือย ๆ ไว้ซะเลย
ตามที่เคยบ่นไว้ในโพสต์ก่อนหน้าทุกอย่าง
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก่อนวันนัดหมอพอดิบพอดี ก็คือ
เครื่องมือเจ้ากรรมนายเวรก็ดันหลุดออกมาได้
โชคดีที่ไม่เข้าปาก เพราะลวดยึดมันไว้
ไม่ได้ขบเคี้ยวอะไรหนักหนานะ เม็ดมะขามก็ไม่เคยกิน
นี่ก็หลุดหลังจากกินไอติมโคน -*-
ตามกำหนดการแล้ว ต้องไปอุดฟันกับขูดหินปูนก่อน
โดยที่หมออุดจะเป็นคนถอดลวดให้
แต่พอดีว่าเครื่องมือหลุด ... หมออุดเลยไปเรียกหมอจัดมาจัดก่อน
"ไปกินอะไรมาเนี่ยะ" ชี้นิ้วมองลอดแว่นมาแต่ไกล
"หมอบอกว่า ถ้าหลุดจะติดให้ฟรี 3 ครั้งใช่มั๊ยคะ แฮ่ะๆๆ" ... ตลกเนียนไป
"เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเถอะ" แล้วก็มาคืดๆๆๆ ที่ปากเลย
"อ่ะ เสร็จละ" ... หมอ เสร็จ เร็ว จัง คะ
"ถอดทิ้งซะแล้ว หึๆๆๆ" แล้วก็เดินจากไป ...
หมอศิลปิน ...
---
ทีนี้ก็ถึงคิวหมออุดฟัน
วันนี้ได้เจอหมอเด็ก
ตัวหมอก็เด็ก แล้วก็เป็นหมอฟันของเด็ก ๆ ด้วย
ห้องที่อุดก็เต็มไปด้วยลูกโป่ง
หมอน่ารักมาก พูดกับเราจนเราเขิน นึกว่าเราเป็นเด็ก 7 ขวบ
นะคะ นะคะ จับไหล่บอกตลอด "เจ็บบอกหมอได้นะคะ"
"ไหวมั๊ยคะ" "อุด 2 ซี่เลยนะคะ" "กลอหน่อยนะคะ" "เจ็บหน่อยนะคะ"
"ถ้าเสียวโบกมือบอกหมอนะคะ" "นิดนึงนะคะ"
...
จะบอกว่าหมอทำอะไรก็ทำไปเลยค่ะ
การที่ดิชั้นมานอนอ้าอยู่บนเตียงนี่ก็เตรียมใจมาแล้วค่ะ
ผุก็เข้าใจว่าต้องเจ็บ เพราะโบกมือไปกี่ครั้ง
หมอก็พูดเพียงว่า "เจ็บเหรอคะ ไหวมั๊ย"
แต่หมอไม่ได้ชะลอเครื่องมือวื๊ดๆๆๆ นั่นเลย
กดต่อเรื่อย ๆ จะโบกไม่โบกก็เหมือนกัน จัดเต็มไปเลยค่ะ
----
นี่คือสภาพที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่เห็นร่องรอยของการอุด
ตำแหน่งอุดคือที่มีหมุดสีฟ้าปักอยู่สองด้าน
ตำแหน่งซอกแห่งความลี้ลับ ที่เศษอาหารนิยมไปสิงสู่
เลยถือโอกาสถ่ายรูปตอนที่เอาลวดออก
เหลือแต่เครื่องมือเปลือย ๆ ไว้ซะเลย
Subscribe to:
Posts (Atom)